บันทึกการเรียนรู้ประจำสัปดาห์
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2557
เรียน ท่านอาจารย์ ดร.ประเสริฐ มงคล และ
รศ.ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ ที่เคารพ
สัปดาห์ที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้พยายามค้นหาสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถานจากทางอินเทอร์เน็ตตามคำแนะนำของ
รศ.ดร.วิชัย วงใหญ่ และได้ไปเจองานวิจัยของ ทิศนา แขมมณีและคณะ ในหัวข้อ
แนวทางการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ :
ข้อค้นพบจากการศึกษาพหุกรณี โดยคณะผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาโรงเรียนเป็นพหุกรณีจำนวน
11 โรง
ประกอบด้วยโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ได้มีการดำเนินการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และได้รับความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่งจำนวน
4 โรง
และโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ยังไม่มีการพัฒนาหรือมีความพยายามในการพัฒนาบ้างแล้ว
แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จอีก 4 โรง โดยพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่มีลักษณะ
สภาพและปัจจัยแตกต่างกัน รวมทั้งครอบคลุมการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกระดับ ทุกสังกัดและกระจายตามลักษณะของชุมชนและภูมิภาคต่างๆของประเทศ
ผลที่ได้รับจากการวิจัย
สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนหรือสถานศึกษาได้ดังที่ข้าพเจ้าจะกล่าวต่อไป
แนวทางในการดำเนินการพัฒนาหรือปฏิรูปการเรียนรู้แบ่งได้เป็น
2 หัวข้อใหญ่ๆ คือ การจัดและพัฒนาปัจจัยต่างๆ
ให้เอื้อต่อการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ของโรงเรียน และ การดำเนินการป้องกันหรือแก้ใขปัญหาต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการปฎิรูปกระบวนการเรียนรู้
เมื่อกล่าวถึงองค์ประกอบสำคัญๆที่เป็นแรงผลักดันช่วยในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ของโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จมี
6 ด้าน สิ่งแรกคือ
องค์ประกอบด้านผู้บริหาร ผลการวิจัยพบว่า
ผู้บริหารมีอิทธิพลสูงมากต่อความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ผู้บริหารต้องเป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของงานวิชาการ และเน้นพัฒนาวิชาการของโรงเรียนอย่างจริงจังและตั้งใจ
มีความกล้าในการตัดสินใจ กล้าต่อการเสื่ยงเพื่อผลักดันในการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ในขณะเดียวกันการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
มีความเป็นประชาธิปไตยและเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงาน
เป็นองค์ประกอบที่เกื้อหนุนให้ผู้บริหารทำงานไปได้ด้วยดี สองคือ
องค์ประกอบด้านยุทธวิธีในการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ได้แก่
การส่งเสริมการเรียนรู้ของครูอย่างจริงจัง หลากหลาย เพียงพอและต่อเนื่อง
การส่งเสริมให้ครูมีส่วนร่วมในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ส่งเสริมการนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร
สามคือ องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า
การบริหารจัดากรทรัพยากรด้านต่างๆ
ให้เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้การปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นและเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น
ลำดับต่อมาคือ องค์ประกอบด้านครู : คุณสมบัติของครู การพัฒนาตนเอง
การเตรียมการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูนับเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดและส่งผลตรงต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนมากที่สุด ครูที่สอนดีล้วนเป็นครูที่มีการเตรียม การสอนที่ดีมาก่อนการสอน การเตรียมการสอนที่ดีเป็นองค์ประกอบสำคัญมากต่อการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ดังนั้นควรช่วยและอำนวยความสำดวกให้ครูสามารถเตรียมการสอนที่มีคุณภาพ
ในด้านกิจกรรมการเรียนรู้ก็เป็นตัวส่งผลต่อคุณภาพของการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ด้านที่ห้าคือ องค์ประกอบด้านนักเรียน
ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้ ปัจจัยสำคัญมากประการแรกก็คือ
ความเป็นกัลยาณมิตรของครู นักเรียนที่เรียนดีหรือด้อยพูดตรงกันว่า
เขาชอบเรียนกับครูที่ใจดี เข้าใจเด็ก ไม่ดุด่า ไม่ลงโทษ อีกปัจจัยหนึ่งคือ
นักเรีนต้องการครูที่สอนสนุก ไม่เครียด แต่มีสาระ มีกิจกรรมที่ได้ทดลอง ลงมือทำ
เนื่องจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน
โรงเรียนจึงควรมีการวิเคราะห์หลักสูตร ศึกษาความสนใจและความต้องการของนักเรียนและพิจารณานำเรื่องที่นักเรียนสนใจอยากเรียนรู้เข้าไปในหลักสูตร
องค์ประกอบด้านสุดท้ายคือ องค์ประกอบด้านผู้ปกครองและชุมชน
โรงเรียนที่ประสบความสำเร็จสามารถดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้
โดยการสร้างความเข้าใจให้ชุมชนเห็นความสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา
เข้าใจจุดมุ่งหมายการดำเนินงานและการทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน
จากที่ข้าพเจ้าได้อ่านเนื้อความงานวิจัยของทิศนา
แขมมณีและคณะ ข้าพเจ้าให้ความคิดเห็นว่า การที่จะพัฒนาปรับปรุงหรือการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัยในทุกๆปัจจัยรวมกัน
ขาดสิ่งหนึ่ง สิ่งใดเสียมิได้
ดังนั้นโรงเรียนหรือสถานศึกษาความมีความรู้ความเข้าใจและแนวทางในการดำเนินงานอย่างถูกทิศทาง
ทั้งด้านผู้บริหาร ด้านโรงเรียน ด้านผู้เรียน และด้านผู้ปกครองและชุมชน
ด้วยความเคารพยิ่ง
นางณัฐฐิรา
ปุยะกุล ซวิค รหัสนักศึกษา 57254907
นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
No comments:
Post a Comment