บันทึกการเรียนรู้ประจำสัปดาห์
วันอาทิตย์ที่ 28
กันยายน 2557
เรียน ท่านอาจารย์ ดร.ประเสริฐ มงคล และ
รศ.ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ ที่เคารพ
ต่อจากบันทึกตอนที่แล้วที่กล่าวถึง
ความคิดทางการศึกษาและทัศนะเกี่ยวกับการเรียนการสอนของ ศาสตรจารย์ ดร.เจตนา
นาควัชระ มีคำพูดประโยคหนึ่งที่ท่านกล่าวไว้ว่า
การเรียนรู้หรื่อสั่งสมประสบการณ์ของท่านเริ่มด้วยการเกิดความสำนึกทางประวัติศาสตร์
สำนึกทางประวัติศาสตร์หมายถึง ความเข้าใจในเรื่องผลงานของมนุษย์
พฤติกรรมความคิดและความรู้สึกของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะอะไรแล้วมีผลอย่างไรจนผู้เรียนได้บทเรียนทางความคิดในที่สุด
ข้าพเจ้าก็เกิดคำถามกับว่าตัวเองเข้าใจความหมายคำว่า หลักสูตรมากน้อยแค่ไหน
และมีที่มาที่ไปอย่างไร จึงเกิดความสงสัยและอยากรู้
จึงได้เริ่มค้นหาในอินเทอร์เน็ต สรุปแล้วข้าพเจ้าได้ข้อมูลที่เป็นความรู้ที่ดีจากวิกิพีเดีย
สารานุกรมเสรี กล่าวไว้ว่า
คำว่าหลักสูตร หรือ curriculum
(เอกพจน์) curricula (พหูพจน์) เริ่มมีพัฒนาการเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยโบราณ
หลักฐานปรากฎว่ามีการจัดทำหลักสูตรมากว่า 2,500 ปีมาแล้ว แต่ก็กล่าวกันว่าคงมีการจัดทำหลักสูตรมาก่อนหน้านี้
แต่ไม่มีหลักฐานให้เห็น หลักสูตรในสมัยนั้นจะเน้นการดำรงชีวิตในสังคม
การท่องจำคัมภีร์ ยุทธวิธี พลศึกษา ศิลปะและศีลธรรม ภาษา ตรรกวิทยา และวรรณคดี
และต่อมาสมัยยุคกลางหลักสูตรเริ่มมีเนื้อหาและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม
เพราะยุคกรีกและโรมันแบบเดิมค่อยๆ เสื่อมลง หลังจากนั้นหลักสูตรก็ได้พัฒนาขึ้นอีกครั้งโดยศาสนาจักรในหลักสูตรประกอบไปด้วยวิชา
ศาสนวิทยา จนกระทั้งหลักสูตรได้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง ในคริสต์ศตวรรษที่ 17
แต่เริ่มใช้อย่างแพร่หลายในคริสต์วรรษที่ 20 จอห์น แฟรงคลิน บอบบิท
ได้กล่าวเกี่ยวกับหลักสูตรไว้ในตำราเรียนที่เขาได้เขียนไว้ และเป็นตำราเรียนเล่มแรกของหลักสูตร
ต่อมาก็มีนักศึกษาอีกหลายคนได้ให้ความหมายของหลักสูตร จึงพอสรุปความหมายของคำว่าหลักสูตรได้ว่า
หลักสูตร หมายถึง ประสบการณ์ต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในสถานศึกษา
เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
และพัฒนาตนเองจนสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ได้ หลักสูตรมีทั้งหมด 6 รูปแบบ
ได้แก่ หลักสูตรเน้นสาขาวิชา หลักสูตรแกน
หลักสูตรประสบการณ์ หลักสูตรกระบวนการ หลักสูตรเกณฑ์ความสามารถและหลักสูตรบูรณาการ
รูปแบบหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดคือรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของราล์ฟ
ไทเลอร์ ที่คำนึงถึงจุดมุ่งหมายการศึกษา ประสบการณ์ทางการศึกษาที่จะจัดให้
รวมไปถึงการประเมินผลการจัดประสบการณ์ จากหลักสูตรที่กล่าวมาจะมีการพัฒนาหลักสูตรอยู่
2 นัยยะคือ การสร้างหลักสูตรขึ้นมาใหม่และการพัฒนาหลักสูตรเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น
โดยมีการพัฒนาหลักสูตรนั้นมีอยู่หลายระดับตั่งแต่ระดับชาติจนถึงระดับท้องถิ่น ในการที่นำหลักสูตรไปใช้ก็จะต้องมีการประเมินผลว่าเหมาะสมมีอุปสรรคหรือไม่
หลักสูตรส่วนไหนควรยกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข
ซึ่งการประเมินหลักสูตรต้องประเมินทั้งตัวหลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนและระบบหลักสูตร
โดยรูปแบบการประเมินหลักสูตรที่สำคัญและได้รับการยอมรับกว้างขวางอาทิเช่น
การใช้เทคนิกวิเคราะห์แบบปุยแซงค์ รูปแบบการประเมินหลักสูตรของไทเลอร์ แฮมมอนด์
สเตค โพรวัส สคริฟเวน และสตัฟเฟิลบีม
จากที่กล่าวมาทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า
หลักสูตรเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลและได้มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจากอิทธิพลและแนวความคิดต่างๆ
โดยแนวคิดใดได้รับความนิยมเชื่อถือในยุคนั้นก็จะมีอิทธิพลสูงมากต่อการพัฒนาหลักสูตร
โดยพื้นฐานสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาหลักสูตรนั้นได้แก่ ปรัชญา
จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการเรียนรู้ สภาพสังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และประวัติศาสตร์
การที่จะวัดผลสัมฤทธิ์ของหลักสูตรนั้นก็ต้องมีการประเมินอยู่เป็นระยะ
ด้วยความเคารพยิ่ง
นางณัฐฐิรา
ปุยะกุล ซวิค รหัสนักศึกษา 57254907
นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
แหล่งที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/หลักสูตร
No comments:
Post a Comment